หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดบทที่5 วิชาระบบฐานข้อมูล

ตอนที่ 1
1 ง
2 ค
3 ก
4 ง
5 ง
6 ค
7 ข
8 ข
9 ง
10 ข
ตอนที่ 2
1. ค
2. ซ
3. ฉ
4. ญ
5. ข
6. ก
7. ช
8.  จ
9.  ง
10. ฌ

ตอนที่ 3
1.การสร้างรายงานมีกี่แบบ อะไรบ้าง และแต่ละแบบมีประโยชน์อย่างไร
ตอบ  3 แบบ
1. รายงานแบบคอลัมน์ (Columnar Report) เป็นรายงานที่แสดงข้อมูลโดยเรียงฟิลด์ แต่ละเรคอร์ดจากบนลงล่าง ทีละ 1 เรคอร์ด
2. รายงานแบบตาราง (Table Report) เป็นรายงานที่แสดงแบบแถวและคอลัมน์ ซึ่งจะแสดงข้อมูลทุกเรคอร์ดใน 1 หน้ารายงาน โดยเรียงฟิลด์จากซ้ายไปทางขวาของรายงาน
3. รายงานแบบป้ายชื่อ (Label Report) เป็นรายงานสาหรับพิมพ์ป้ายฉลากต่าง ๆ เช่น ป้ายฉลากติดซองจดหมาย เป็นต้น

2. จงบอกถึงส่วนประกอบของรายงาน และแต่ละส่วนมีหน้าที่อะไร
ตอบ
Page Header : ใช้แสดงข้อความหรือรายละเอียดที่ต้องการแสดงทุกหน้ารายงานใน
ส่วนบน เช่น ชื่อกากับฟิลด์ เลขหน้า เป็นต้น

 Detail : ใช้แสดงฟิลด์ที่ดึงมาจากฐานข้อมูล
 Page Footer : ใช้แสดงข้อความหรือรายละเอียดที่ต้องการแสดงทุกหน้าของรายงานใน
ส่วนท้าย เช่น เลขหน้า

3. จงอธิบายขั้นตอนการสร้างรายงานแบบ Report Wizard
ตอบ

มีขั้นตอนในการสร้างดังต่อไปนี้

1. คลิกที่แท็บ Create
2. คลิกเลือก (Report Wizard) ในกลุ่มของ Reports

3. เลือกตารางหรือแบบสอบถามข้อมูลที่ต้องการนามาสร้างรายงาน
4. คลิกเลือกฟิลด์ที่ต้องการ แล้วคลิกปุ่ม เพื่อเลือกทีละฟิลด์ หรือคลิกปุ่ม เพื่อเลือกฟิลด์ทั้งหมด
5. แล้วคลิกปุ่ม Next>

6. เลือกข้อมูลที่ต้องการแสดงรายละเอียด
7. แล้วคลิกปุ่ม Next>

8. เลือกฟิลด์ที่ต้องการ แบ่งกลุ่มข้อมูล แล้วคลิกที่ปุ่ม เพื่อเลือกฟิลด์
9. แล้วคลิกปุ่ม Next>

10. เลือกฟิลด์ที่ต้องการเรียงลาดับ ถ้าต้องการเรียงลาดับข้อมูลจากน้อยไปหามากให้คลิกที่ปุ่ม
และคลิกที่ปุ่ม ถ้าต้องการเรียงจากมากไปหาน้อย
11. แล้วคลิกปุ่ม Next>

12. เลือกรูปแบบตาแหน่งการจัดวางรายงานที่ Layout และที่ Orientation เลือกแนวกระดาษเลือก Portrait สาหรับแนวตั้ง Landscape สาหรับแนวนอน
13. จากนั้นคลิกปุ่ม Next

14. เลือกสไตล์หรือรูปแบบรายงานที่ต้องการ
15. แล้วคลิกปุ่ม Next>

16. ตั้งชื่อรายงานที่ต้องการ และเลือกการแสดงผลรายงาน ในมุมมองตัวอย่างก่อนพิมพ์ หรือมุมมองในการแก้ไขรายงาน
17. แล้วคลิกปุ่ม Finish



4. จงอธิบายขั้นตอนการสร้างรายงานแบบ Label Wizard
ตอบ

ขั้นตอนในการสร้างดังต่อไปนี

1. คลิกที่แท็บ Create
2. เลือกตารางหรือแบบสอบถามข้อมูลที่ต้องการนามาสร้างเลเบล
3. คลิกที่ปุ่ม ในกลุ่มของ Reports จากนั้นจะแสดงหน้าจอให้เลือกขนาดของเลเบล

4. เลือกขนาดของเลเบลที่ต้องการ ซึ่งถ้าหากต้องการกาหนดขนาดของเลเบลใหม่ให้คลิกที่ปุ่ม
แล้วกาหนดขนาดใหม่
5. จากนั้นคลิกปุ่ม Next>
6. กาหนดรูปแบบข้อความที่ต้องการแสดง
7. แล้วคลิกปุ่ม Next>

8. คลิกเลือกฟิลด์ที่ต้องการแสดงในเลเบล โดยคลิกปุ่ม เพื่อเลือกข้อมูล ซึ่งถ้าหากต้องการเว้นวรรคในแต่ละฟิลด์ ให้กดปุ่ม ที่แป้นพิมพ์ และถ้าต้องการขึ้นบรรทัดใหม่ ก็สามารถกดปุ่ม ได้
9. คลิกปุ่ม Next>

10. เลือกฟิลด์ที่ต้องการเรียงลาดับข้อมูลในเลเบล โดยคลิกปุ่ม เพื่อเลือกฟิลด์ข้อมูล
11. คลิกปุ่ม Next>

12. ตั้งชื่อรายงาน และเลือกการแสดงผลเลเบล ในมุมมองตัวอย่างก่อนพิมพ์หรือมุมมองในการแก้ไขเลเบล
13. แล้วคลิกปุ่ม Finish

5. จงบอกถึงข้อดีและข้อเสียของรายงานแบบอัตโนมัติ 
 ตอบ
ข้อดี  การสร้างรายงานทุกแบบนั้น หลังจากสร้างเสร็จแล้วเราสามารถจัดรูปแบบ และแก้ไขในภายหลังได้
ข้อเสีย  เราต้องเตรียมข้อมูลทุกอย่างให้ดี และยุ่งยาก

แบบฝึกหัดบทที่4 วิชาระบบฐานข้อมูล

ตอนที่1
1 ง
2 ง
3 ข
4ข
5 ก
6 ข
7 ข
8 ค
9 ง
10 ค


ตอนที่2
1. ช         Columnar Form
2. ฌ         Tabular Form
3. ฉ          Form Design
4. ง          Split Form
5.ซ          Pivot Chart
6.  ข        Label
7.  ญ       Text Box
8.  ก       Option Group
9.  จ        Combo Box
10. ค       List Box





ตอนที่3

1. จงอธิบายถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างฟอร์ม

ตอบ ช่วยให้ผู้ใช้ทางานกับข้อมูลในตารางได้สะดวกกว่าการใช้มุมมองแผ่นตารางข้อมูล (Datasheet View) และยังช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับแอปพลิเคชั่นที่ได้สร้างขึ้นมา




2. ในการสร้างฟอร์มมีกี่แบบ แต่ละแบบมีประโยชน์อย่างไร
ตอบ แบ่งออกเป็น 5 แบบด้วยกันคือ
1.ฟอร์มแบบคอลัมน์ (Columnar Form) หรือฟอร์มเดี่ยว ซึ่งเป็นฟอร์มที่แสดงข้อมูลหนึ่งเรคอร์ดต่อหนึ่งหน้าของฟอร์ม
2.ฟอร์มแบบตาราง (Tabular Form) เป็นฟอร์มที่แสดงข้อมูลทุกเรคอร์ด
3ฟอร์มแบบแผ่นตารางข้อมูล (Datasheet Form) เป็นฟอร์มที่แสดงทุกเรคอร์ดในลักษณะแผ่นตาราง เช่นเดียวกับตาราง (Table) ฟอร์มแบบตารางสรุปข้อมูลหลายมิติ (Pivot Table Form) เป็นฟอร์มที่ใช้แสดงข้อมูลแบบตารางหลายมิติหรือหลายฟิลด์ ทาให้สามารถดูข้อมูลได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น ฟอร์มแบบแผนภูมิสรุปข้อมูลหลายมิติ (Pivot Chart Form) เป็นฟอร์มที่ใช้แสดงข้อมูลในลักษณะแผนภูมิ ซึ่งสามารถดูข้อมูลได้หลายฟิลด์ที่ต้องการ


3. ส่วนประกอบของฟอร์มมีอะไรบ้าง แต่ละส่วนมีหน้าที่อย่างไร
 ตอบ
4. จงยกตัวอย่างปุ่มเครื่องมือ (Controls) ที่ใช้ในการเพิ่มส่วนประกอบของฟอร์มมา 3 ส่วนประกอบ พร้อมทั้งบอกถึงหน้าที่ในการทางานของแต่ละส่วนประกอบ
ตอบ
 text box ใช้แสดงข้อมูลในฟิลด์ ป้อนสูตรคำนวณและฟังชั่น
         Lable  สำหรับพิมพ์ข้อความในฟอร์ม

         botton ปุ่มคำสั่ง

5. จงอธิบายถึงขั้นตอนในการสร้างฟอร์มแบบแผนภูมิ (PivotChart)
ตอบ  



ขั้นตอนในการสร้างดังต่อไปนี้
1. คลิกที่แท็บ Create
2. คลิกที่ปุ่ม ในกลุ่มของ Forms
3. คลิกที่พื้นที่ในแผนภูมิแล้วจะแสดงฟิลด์รายการข้อมูล (Field List) ให้เลือก
4. คลิกที่ฟิลด์ที่ต้องการ
5. เลือกตาแหน่งที่ต้องการแสดงฟิลด์
Series Area : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่แสดงในแต่ละชุดของแผนภูมิ
Categories Area : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการแสดงในแกน X
Filter Area : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการแบ่งกลุ่ม
Data Area : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการคานวณ
6. คลิกปุ่ม Add to เพื่อวางฟิลด์ในตาแหน่งที่เลือกไว้ แล้วบันทึกตั้งชื่อฟอร์มเก็บไว้ หรืออีกวิธีหนึ่งสามารถทาได้โดยลากฟิลด์ที่ต้องการมาวางในตาแหน่งบนแผนภูมิต่อไปนี้
ที่ Drop Filter Fields Here : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการแบ่งกลุ่ม
ที่ Drop Data Fields Here : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการคานวณ
ที่ Drop Category Fields Here : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่ต้องการแสดงในแกน X
ที่ Drop Series Fields Here : แสดงฟิลด์ข้อมูลที่แสดงในแต่ละชุดของแผนภูมิ




วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

แบบฝึกหัดบทที่3 วิชาฐานข้อมูล

ตอนที่ 1

1 ง.
2 ก.
3 ง.
4 ค.
5 ก.
6 ง.
7 ก.
8 ง.
9 ค.
10 ข.
ตอนที่ 2

1 ฉ
2 ซ
3 จ
4 ข
5 ณ
6 ก
7 ค
8 ญ
9 ง
10 ก
ตอนที่ 3

1. จงบอกถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างแบบสอบถามข้อมูลหรือคิวรี่
ตอบ  ทาให้เราสามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากจะค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้แล้วยังสามารถคานวณได้อีกด้วย

2.จงบอกขั้นตอนในการสร้างแบบสอบถามข้อมูลด้วยมุมมองการออกแบบ
 ตอบ1. คลิกที่แท็บ Create          2. คลิกที่ปุ่ม (Query Design) ที่กลุ่มของ Other          3. คลิกเลือกชื่อตาราง
         4. คลิกปุ่ม Add จากนั้นทาตามขั้นตอนที่ 3 – 4 จนครบทุกฟิลด(หรือดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อตาราง)
         5. คลิกปุ่ม Close          6. ดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อฟิลด์ที่ต้องการจนครบทุกฟิลด์ หลังจากนั้นจะแสดงชื่อฟิลด์ที่เลือกในช่องด้านล่าง โดยแต่ละแถวมีการทางานดังต่อไปนี้
           -ที่Field : แสดงชื่อฟิลด์ที่เลือก
           -ที่Table : แสดงชื่อตารางของฟิลด์ที่เลือก
           -ที่Sort : กาหนดการเรียงลาดับของข้อมูลในฟิลด์
           -ที่Show : แสดงข้อมูลในฟิลด์นี้หรือไม่ถ้าไม่เลือกจะไม่แสดงข้อมูลในฟิลด์นี้
          -ที่Criteria : กาหนดเงื่อนไขของฟิลด์ในค้นหาข้อมูล
          -ที่Or
3.การสร้างแบบสอบถามข้อมูลด้วยเครื่องมือช่วยสร้าง (Query Wizard) มีกี่แบบ และแต่ละแบบมีประโยชน์อย่างไร
ตอบ  4  แบบ
     1.Simple Query Wizard -
      เป็นการสร้างแบบสอบถามด้วยเครื่องมือช่วยแบบง่าย ๆ โดยให้เราสามารถเลือกตารางและฟิลด์ที่ ต้องการได้
    2. Crosstab Query Wizard -
แสดงข้อมูลในรูปแบบกราฟและในลักษณะของตารางไขว
    3. Find Duplicates Query Wizard -
เป็นการสร้างแบบสอบถามข้อมูลเพื่อค้นหาข้อมูลที่ซ้ากันในตาราง
   4. Find Unmatched Query Wizard -
เป็นการสร้างแบบสอบถามข้อมูลเพื่อค้นหาข้อมูลที่ไม่ซ้ากันใน 2 ตาราง เช่น มีพนักงานคนใดบ้างที่ยังขายสินค้าไม่ได้เลย ซึ่งหมายความว่ามีรหัสพนักงานในตารางพนักงาน แต่ไม่มีรหัสพนักงานในตารางการขายสินค้า หรือมีพนักงานคนใดบ้างที่ยังไม่ได้กรอกที่อยู่


 

4. จงอธิบายขั้นตอนในการสร้างแบบสอบถามข้อมูลด้วย Simple Query Wizard
ตอบ1. คลิกที่แท็บ Create
       2. คลิกที่ปุ่ม (Query Wizard) ที่กลุ่มของ Other
       3. เลือก Simple Query Wizard
       4. คลิกปุ่ม OK
       5. เลือกชื่อตาราง
      6. เลือกชื่อฟิลด์ที่ต้องการโดยคลิกปุ่ม เพื่อเลือกทีละฟิลด์ หรือคลิกปุ่ม เพื่อเลือกทุกฟิลด์ของตาราง (ถ้าต้องการมากกว่า 1 ตารางให้ทาขั้นตอนที่ 5 และ 6 ซ้าอีกครั้งหนึ่ง)
      7. คลิกปุ่ม Next>
      8. ตั้งชื่อแบบสอบถามข้อมูล
     9. คลิกปุ่ม Finish

5. จงอธิบายความหมายและหลักการสร้างแบบสอบถามข้อมูลด้วย Crosstab Query Wizard
ตอบ
การสร้างแบบสอบถามข้อมูลด้วย Crosstab Query Wizard เป็นการสร้างแบบสอบถามข้อมูลที่สอบถามความสัมพันธ์ระหว่างฟิลด์ 2 ฟิลด์หรือมากกว่า ซึ่งแบบสอบถามประเภทนี้มีประโยชน์ในการแสดงข้อมูลในรูปแบบกราฟและในลักษณะของตารางไขว้ เช่น ต้องการดูจานวนพนักงานในแต่ละแผนกว่ามีเพศชายและเพศหญิงอย่างละกี่คน ซึ่งสามารถสร้างได้โดยมีขั้นตอนดังนี้